ดูบอลย้อนหลัง คริสตัล พาเลซ 2–2 ลิเวอร์พูล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่เวมบลีย์

ดูบอลย้อนหลัง คริสตัล พาเลซ 2–2 ลิเวอร์พูล

ในค่ำคืนที่เวมบลีย์กลายเป็นเวทีแห่งความทรงจำ คริสตัล พาเลซ สร้างความประหลาดใจให้แฟนบอลทั่วโลก หลังเสมอ ดูบอลย้อนหลัง คริสตัล พาเลซ 2–2 ลิเวอร์พูล ในเวลา 90 นาที ก่อนจะโชว์ความแม่นยำในช่วงดวลจุดโทษ และเอาชนะไปได้อย่างสุดมันส์ นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่พวกเขาสามารถคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ได้สำเร็จ และยิ่งน่าประทับใจเพราะต้องเจอกับคู่แข่งอย่างลิเวอร์พูล ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงแชมป์หลายรายการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แฟนบอลพาเลซต่างหลั่งน้ำตาด้วยความสุข เพราะชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่เพียงถ้วยรางวัล แต่เป็นการประกาศศักดาว่า พวกเขาสามารถต่อกรกับทีมใหญ่ได้อย่างแท้จริง

ดูบอลย้อนหลัง คริสตัล พาเลซ 2–2 ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งแรก

เกมการแข่งขันที่สนามเวมบลีย์เต็มไปด้วยความเข้มข้น แม้ว่า ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สล็อต จะเสริมทัพด้วยนักเตะใหม่ถึง 4 ราย แต่กลับไม่สามารถคว้าชัยชนะในนัดนี้ได้ ขณะที่โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือของคริสตัล พาเลซ เลือกใช้นักเตะชุดเดิมจากนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พาเลซยังคงเดินนโยบายประหยัดในตลาดซื้อขายนักเตะ โดยเสริมทัพเพียง 2 รายเท่านั้น แต่กลับสร้างความแข็งแกร่งและทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ จนสามารถเอาชนะคู่แข่งที่มีความพร้อมสูงกว่าอย่าง ลิเวอร์พูล ได้ในช่วงดวลจุดโทษ ซึ่งชัยชนะนี้นับเป็นการประกาศศักยภาพของทีมในฤดูกาลใหม่

ฮูโก้ เอคิติเก้

ลิเวอร์พูลเร่งเกมบุกหลังไว้อาลัยดิโอโก้ โชต้า และอังเดร ซิลวา

ในช่วงก่อนเกมเริ่มต้น กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายร่วมยืนไว้อาลัยแด่ ดิโอโก้ โชต้า และอังเดร ซิลวา น้องชายของพวกเขา ด้วยความเงียบสงบเป็นเวลา 1 นาที เพื่อแสดงความเคารพและรำลึกถึงนักเตะที่จากไปอย่างน่าเศร้า ทันทีที่ช่วงไว้อาลัยจบ ลิเวอร์พูลไม่ปล่อยให้บรรยากาศเงียบเหงาต่อเนื่อง พวกเขารีบเริ่มต้นเกมรุกอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที ฮูโก้ เอคิติเก้ นักเตะใหม่ที่ถูกจับตามอง ร่วมมือกับ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ นักเตะที่สร้างสถิติโลกในการทำประตูอย่างต่อเนื่อง พาบอลเข้าเขตโทษและจบสกอร์ด้วยความเฉียบขาดผ่านมือของ ดี น เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูล

ฌอง ฟิลิปป์-มาเตต้า

พาเลซไม่ยอมแพ้ง่ายๆ! ตอบโต้ทันทีหลังโดนตามหลัง

แม้ลูกทีมของอาร์เน่ สล็อตจะพยายามไล่ตามสกอร์ แต่คริสตัล พาเลซก็ไม่ปล่อยให้ความกดดันครอบงำนานนัก หลังจากที่โดนตามหลังได้ไม่นาน พวกเขาตั้งหลักและตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว จังหวะสำคัญเกิดขึ้นเมื่อบอลถูกส่งพุ่งขึ้นนำไปสู่การทำฟาวล์ของเวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ทำเสียจุดโทษหลังจากฟาวล์อิสมาอิลา ซาร์ในกรอบเขตโทษ ฌอง ฟิลิปป์-มาเตต้า รับหน้าที่สังหารลูกจุดโทษอย่างเฉียบขาด ส่งให้ทีมเยือนกลับมาทำคะแนนและคืนความมั่นใจในเกมได้ทันที เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนสกอร์ในสนาม แต่ยังส่งสัญญาณว่าพาเลซยังคงสู้ไม่ถอย พร้อมเปิดศึกกับทีมของอาร์เน่ สล็อตอย่างดุเดือด

เฌเรมี ฟริมปง

ลิเวอร์พูลนำอีกครั้งหลังโซบอสไลจ่ายให้ฟริมปง ยิงประตูสุดงาม

แม้คริสตัล พาเลซจะสามารถตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว แต่ความสุขของพวกเขาก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะ ลิเวอร์พูลกลับมาได้ประตูนำอีกครั้งในจังหวะที่ โดมินิก โซบอสไล โชว์ฟอร์มด้วยการจ่ายบอลสุดสวยให้ เฌเรมี ฟริมปง ยิงทางขวา นักเตะชาวดัตช์พยายามพุ่งเข้าเส้นก่อนที่จะยิงขึ้นไปยืนที่เสาหลัง ทว่า ลูกยิงนั้นกลับพลาดโดน ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูลพยายามเซฟบอลแต่ก็ไม่สำเร็จ บอลทะลุเข้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นเกมก็เข้าสู่ช่วงที่ทั้งสองทีมไม่เร่งรีบ โดยไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตู พาเลซเริ่มผ่อนคลายและเน้นการเล่นวิงแบ็ก ในขณะที่ลิเวอร์พูลก็เปิดโอกาสให้ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ได้โชว์ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม

อิสมาอิลา ซาร์

โอกาสทองในครึ่งหลัง เอคิติเก้พลาดลุ้นประตู พาเลซไม่ยอมง่ายๆ

ดูบอล monomax ลิเวอร์พูล ช่วงต้นครึ่งหลังเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองทีมต่างมีโอกาสทองในการทำประตูอย่างใกล้เคียง ฮูโก้ เอคิติเก้ ได้โอกาสยิงลูกเปิดจากฝั่งซ้าย แต่กลับพลาดจังหวะแรกไปอย่างน่าเสียดาย ในขณะที่คริส ริชาร์ดส์พยายามโหม่งลูกเตะมุมของอดัม วอร์ตัน เพื่อเปิดโอกาสให้ดาวเตะบราซิลได้ส่องประตู แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ลิเวอร์พูลตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ ส่งวาตารุ เอ็นโด กองกลางชาวดัตช์ลงสนามแทนที่เอคิติเก้ หวังจะสร้างความสดใหม่และเปลี่ยนจังหวะเกม แต่ถึงอย่างนั้น ห้านาทีถัดมา พาเลซก็ยิงตีเสมอได้อีกครั้งจากจังหวะที่ อิสมาอิลา ซาร์ รับบอลทะลุแนวรับลิเวอร์พูล เข้าไปซัดตุงตาข่าย

มิโลส เคอร์เกซ

VAR ปัดจุดโทษพาเลซ ขณะที่ลิเวอร์พูลหวิดได้ประตูช่วงท้ายเกม

เกมเริ่มร้อนแรงอย่างกะทันหัน เมื่อคริสตัล พาเลซพยายามเร่งเครื่องบุกหนัก ทว่าช่วงเวลาสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ VAR เข้ามาตรวจสอบจังหวะที่พาเลซหวังได้ลูกจุดโทษ หลังจากอิสมาอิลา ซาร์ ถูกบล็อกอย่างยอดเยี่ยมจากมิโลส เคอร์เกซ ลิเวอร์พูลก็มีช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลาใกล้เข้ามา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้โอกาสยิงลูกฮาล์ฟวอลเลย์ที่สวยงามตรงเข้าประตูดีน เฮนเดอร์สัน แต่โชคร้ายที่ประตูนี้ไม่ได้รับการนับ ในทางกลับกัน พาเลซก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน โดยตัวสำรองอย่างจัสติน เดเวนนี มีโอกาสลากบอลลุยเข้าใกล้กรอบเขตโทษ ลิเวอร์พูลต้องตั้งรับอย่างหนักเพื่อป้องกันประตูในช่วงเวลาสำคัญนี้


ช่วงดวลจุดโทษในเกมนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความผิดพลาดที่สร้างความลุ้นระทึกให้กับแฟนบอลทุกคน ดี น เฮนเดอร์สัน กลับมาสร้างความประทับใจด้วยการเซฟจุดโทษถึงสองครั้งจาก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ในขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ก็มีโอกาสยิงจุดโทษที่สวยงาม แต่ลูกยิงกลับพุ่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเฮนเดอร์สันและความผิดพลาดของคู่แข่ง ทำให้คริสตัล พาเลซคว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ด้วยสกอร์รวม 3-2 ในการดวลจุดโทษครั้งนี้

ติดตามไฮไลท์และผลวิเคราะห์บอลคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่