ไฮไลท์ฟุตบอล เอซี มิลาน 3-1 โรม่า โกปปาอีตาเลียรอบรองชนะเลิศ

ไฮไลท์ฟุตบอล เอซี มิลาน 3-1 โรม่า

หากพูดถึงศึกฟุตบอลถ้วยอิตาลีที่มีดราม่าล้นสนาม แฟนบอลหลายคนคงต้องนึกถึง “โกปปาอีตาเลีย” ซึ่งจัดเป็นอีกหนึ่งรายการที่อัดแน่นไปด้วยเกมคุณภาพและขับเคี่ยวกันอย่างไม่มีใครยอมใคร วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2025 เมื่อคืนนี้ ไฮไลท์ฟุตบอล เอซี มิลาน 3-1 โรม่า ความดุเดือดก็ไม่ได้ลดลงเลย เมื่อ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “หมาป่ากรุงโรม” เอเอส โรม่า สองทีมใหญ่ที่แฟนลูกหนังอิตาลีต่างต้องจับตาและยกให้เป็นคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์

เกมนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้แฟน ๆ ในสนามซาน ซิโร่ แต่ยังทำให้ชาวโซเชียลต้องร้องว้าว ไปกับประตูที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรูปเกมที่ผลัดกันรุกและรับไม่หยุด แม้ว่า โรม่า จะมีสถิติการยิงและการครองบอลที่สูสี แต่ความเด็ดขาดในจังหวะสำคัญกลับเป็นของ เอซี มิลาน อย่างแท้จริง ยิ่งได้เห็น แทมมี่ อับราฮัม (Tammy Abraham) ที่โชว์ฟอร์มระดับเทพ ซัดประตูเบิ้ลให้ทีมต้นสังกัด แฟน ๆ ก็ต่างปรบมือให้ไม่หยุด บวกกับ มาเธียส นูเนส (Matheus Nunes) ที่เข้ามาเป็นตัวปิดท้ายได้แบบสุดเฉียบ ส่วน โรม่า ก็ไม่น้อยหน้า เพราะ อาร์เต็ม ดอฟบีค (Artem Dovbyk) หัวหอกตัวจี๊ดของทีมยิงประตูตีตื้นได้อย่างสะใจ ถึงแม้สุดท้ายผลจะออกมา 3-1 แต่บรรยากาศและเรื่องราวในเกมนี้การันตีได้เลยว่า เป็นดราม่าฟุตบอลที่แฟน ๆ ต้องจดจำและเอาไปคุยกันได้อีกยาว

เปิดตัว 11 ผู้เล่นตัวจริง เอซี มิลาน VS เอเอส โรม่า

เอซี มิลาน VS เอเอส โรม่า

เอซี มิลาน (4-2-3-1)

  • ผู้รักษาประตู: ไมค์ เมนญ็อง ( Safe Hands) ที่คอยส่งสายตาเป็นอาวุธลับ ทำให้กองหน้าฝั่งตรงข้ามหวั่นใจ
  • แนวรับ: ดาวิเด้ คาลาเบรีย, ฟิกาโย โทโมริ, ปิแอร์ กาลูลู, เตโอ เอร์นานเดซ (The Speedy Left) ชุดหลังที่ว่ากันว่ามีสปีดอันตรายตัดเกมได้ทันท่วงทีและยังเติมเกมรุกได้แจ่ม
  • มิดฟิลด์ตัวรับ: ซานโดร โตนาลี่, มามาโดว์ ไฮดาร่า คู่ดูโอ้มัดรวมความแข็งแกร่งและทักษะอ่านเกมขั้นเทพ
  • ตัวทำเกม: ราฟาเอล เลเอา (ดีกรีจี๊ดจ๊าดริมเส้น), บราฮิม ดิอาซ (เพลย์เมคเกอร์หุ่นเล็กใจกว้าง) และ มาเธียส นูเนส (บ็อกซ์ทูบ็อกซ์สุดขยัน)
  • กองหน้าตัวเป้า: แทมมี่ อับราฮัม (The English Powerhouse) ชายผู้พร้อมพังตาข่ายทุกวินาที

โรม่า (4-3-3)

  • ผู้รักษาประตู: รุย ปาตริซิโอ นายทวารจอมเก๋าที่มาพร้อมกับรีเฟล็กซ์เวิลด์คลาส
  • แนวรับ: ริค คาร์สดอร์ป, คริส สมอลลิ่ง (The Great Wall), จานลูก้า มันชินี่ และ เลโอนาร์โด สปินาซโซล่า ขบวนการกำแพงหมาป่าที่พร้อมขวางทุกลูก
  • แผงมิดฟิลด์: ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ (กัปตันกับวิชั่นการจ่ายสุดคม), ไบรอัน คริสตานเต้ และ นิโคโล่ ซานิโอโล่ (ดาวรุ่งพุ่งแรง) สามประสานที่สามารถยิง ตัดเกม และป้อนบอลได้ครบเครื่อง
  • แนวรุก: อาร์เต็ม ดอฟบีค (ตัวจี๊ดความเร็วสูง), เปาโล ดิบาล่า (The Jewel) และดาวยิงลูกรักโค้ช ที่หวังใช้เซนส์บอลพลิกสถานการณ์ให้หมาป่าแกร่งขึ้นในทุกจังหวะบุก

ไฮไลท์ผลบอล เอซี มิลาน 3-1 โรม่า

ก่อนอื่นต้องขอเชิญทุกท่านเข้าสู่สนามซาน ซิโร่ ที่คลาคล่ำไปด้วยแฟนบอล “ปีศาจแดงดำ” และ “หมาป่ากรุงโรม” เสียงเชียร์ดังกระหึ่มตั้งแต่นักเตะวอร์มอัพ เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศที่เดือดได้อีก ด้วยศักดิ์ศรีสองยอดทีมแห่งอิตาลีที่ไม่มีใครอยากกลับบ้านมือเปล่า โรม่า หวังมาเยือนเพื่อคว้าผลลัพธ์สุดเซอร์ไพรส์ ส่วน เอซี มิลาน ก็ประกาศความพร้อมว่า “บ้านข้า ใครอย่าแตะ!”

ทันทีที่เสียงนกหวีดเริ่มเกม แฟนบอลแทบไม่ได้กระพริบตา เพราะทั้งสองทีมเปิดฉากแลกกันอย่างดุเดือด ชนิดที่ใครเลื่อนสายตาไปหยิบขนมอาจพลาดช็อตสำคัญได้ ยิ่งพอเห็นไลน์อัพปึ้ก ๆ อย่าง แทมมี่ อับราฮัม ฟอร์มดีวันดีคืน ประกบด้วย ราฟาเอล เลเอา ขาเลื้อยป่วนปั่นแนวรับ ผนึกกับ มาเธียส นูเนส สารพัดประโยชน์มิดฟิลด์ ขณะที่ โรม่า ก็มี เปาโล ดิบาล่า ที่ใครเจอเป็นต้องครั่นคร้าม และ อาร์เต็ม ดอฟบีค ศูนย์หน้าเท้าคม แค่นี้ก็การันตีความมันส์ระดับ 5 ดาว ก่อนจะเข้าสู่ช่วงไฮไลท์โมเมนต์สำคัญที่แฟน ๆ รอคอยตั้งแต่นาทีแรก! รับชมการแข่งขันได้ที่ ดูบอลสด888 เว็บดูบอลฟรีที่ไม่ควรพลาด

ไฮไลท์ผลบอล เอซี มิลาน 3-1 โรม่า

นาทีที่16 (1-0 แทมมี่ อับราฮัม)

เกมเริ่มมาไม่ทันไร เจ้าถิ่นก็โชว์แสนยานุภาพทันที เมื่อ ราฟาเอล เลเอา โชว์ลีลาเลี้ยงบอลฝ่าแบ็กโรม่า ก่อนจะตบเข้ากลางให้ แทมมี่ อับราฮัม พุ่งเข้าซัดเต็มข้อ ลูกพุ่งเข้าไปกองก้นตาข่ายแบบไม่เกรงใจแฟนโรม่า เรียกว่าเป็นเปิดหัวที่สวยงาม จนแฟนมิลานส่งเสียงเฮลั่น

นาทีที่42 (2-0 แทมมี่ อับราฮัม)

ในช่วงท้ายครึ่งแรก ความผิดพลาดจากแดนกลางของโรม่าทำให้ บอลไปถึง มาเธียส นูเนส ที่ไหลต่ออย่างเนียนให้ อับราฮัม เจ้าเก่าเอี้ยวตัวปั่นโค้ง ๆ บอลเสียบเสาแรกเข้าไปอีกครั้ง ถึงขนาดผู้บรรยายต้องร้องว่า “ไฟในตาก็ไม่แรงเท่าความคมของแทมมี่!” สกอร์ขยับเป็น 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก

นาทีที่54 (2-1 อาร์เต็ม ดอฟบีค)

เริ่มครึ่งหลังเพียงไม่นาน โรม่า แสดงสัญญาณไล่ล่าคืน เมื่อ เปาโล ดิบาล่า เก็บบอลแถวสองก่อนแทงทะลุช่องให้ อาร์เต็ม ดอฟบีค วิ่งสอดขึ้นมาจับหนึ่งจังหวะ แล้วสับไกยิงแบบเน้น ๆ บอลพุ่งเข้ามุมล่างชนิดที่ ไมค์ เมนญ็อง หมดสิทธิ์ป้องกัน สกอร์ไล่มาเป็น 2-1 ทำเอาแฟนหมาป่าเฮกันลั่น

นาทีที่71 (3-1 มาเธียส นูเนส)

โรม่าเริ่มเดินเกมบุกหนัก หวังตามตีเสมอ แต่จังหวะสวนกลับของ มิลาน กลับโหดเหลือเกิน ในนาทีที่ 71 เตโอ เอร์นานเดซ โชว์สปีดนรกทางฝั่งซ้าย จ่ายเรียดเข้ากลาง บอลลอดขาคู่แข่งมาเข้าทาง มาเธียส นูเนส ที่วิ่งเติมมาถึงกรอบเขตโทษ พอเหลือบเห็นช่องก็ยิงเร็วทันที ลูกพุ่งเลียดผ่านมือ รุย ปาตริซิโอ เข้าประตูไปสุดสวย สกอร์ขาด 3-1 และจบที่ผลนี้ในที่สุด

วิเคราะห์ศักยภาพของนักเตะแต่ละทีม และอนาคตที่น่าจับตา

แม้ผลสกอร์จะออกมา 3-1 แต่ถ้ามองกันอย่างละเอียด ต้องยกให้ผู้เล่นทั้งสองฝั่งที่โชว์ศักยภาพแบบไม่มีใครยอมใคร ฝั่งมิลานมี แทมมี่ อับราฮัม ที่ถ่ายทอดประสบการณ์จากลีกอังกฤษมาสู่เวทีอิตาลีได้อย่างสวยงาม เขาไม่เพียงแค่ยิงประตู แต่ยังขยันช่วยเพื่อน วิ่งไล่กดดันกองหลัง และสร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม ขณะที่ มาเธียส นูเนส เป็นอีกคนที่น่าจับตามองในบทบาท “บ็อกซ์ทูบ็อกซ์” ในอนาคตอาจกลายเป็นมิดฟิลด์คนสำคัญทั้งระดับสโมสรและระดับชาติ

ฝั่งโรม่า ด้าน อาร์เต็ม ดอฟบีค ได้แสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นศูนย์หน้าที่มีความเร็วและความคม หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสมจากกองกลาง เขาสามารถเป็น “เดอะแบก” ในการจบสกอร์ได้ไม่ยาก นอกจากนั้น นิโคโล่ ซานิโอโล่ และ เปาโล ดิบาล่า ก็ยังคงเป็นแกนหลักในเกมรุกที่จะขาดไม่ได้ เพียงแต่ในวันนี้อาจต้องยอมรับว่าเจอเกมรับของมิลานที่เน้นบีบพื้นที่ และแพ็กโซนได้ดีจนขาดอิสระในการสร้างสรรค์เกม ดังนั้นหาก โรม่าต้องการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในรายการถ้วยหรือในลีก พวกเขาจำเป็นต้องปรับเรื่องจังหวะการเข้าทำและการเชื่อมเกมระหว่างกลางไปแดนหน้าให้ลงตัวกว่านี้ ที่สำคัญ ยังต้องปรับแท็คติกในการป้องกันเกมสวนกลับให้แน่นขึ้นด้วย

บทสรุปส่งท้าย ปีศาจแดงดำ คว้าชัยเหนือ โรม่า จบสกอร์ 3-1

ผลบอล เอซี มิลาน 3-1 โรม่า

ศึกโกปปาอีตาเลีย 2024 ในค่ำคืนนี้ พิสูจน์ชัดแล้วว่าฟุตบอลอิตาลีไม่ได้ขาดสีสันและอารมณ์ลุ้นใด ๆ เอซี มิลาน ในฐานะเจ้าบ้านแสดงความเป็น “ปีศาจแดงดำ” ได้สมชื่อ พร้อมโชว์ฟอร์มแข็งแกร่ง สร้างโอกาสอันน้อยนิดให้กลายเป็นประตูอย่างคุ้มค่า ขณะที่โรม่า แม้จะต้องพบกับความพ่ายแพ้ แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นหัวจิตหัวใจของ “หมาป่ากรุงโรม” ที่สู้ยิบตา ไม่มีคำว่า “ยอมแพ้” ง่าย ๆ เนื่องจากรูปเกมที่ดุดันและมีความเชื่อว่าพวกเขาจะกลับมาในจังหวะไหนก็ได้

สำหรับแฟน ๆ ที่ได้ชมและติดตามศึกนี้คงได้ความบันเทิงและบทเรียนลูกหนังดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพลิกเกม การตั้งรับอย่างมีวินัย หรือการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น อีกทั้งได้เห็นภาพของนักเตะใหม่ไฟแรงอย่าง นูเนส และ ดอฟบีค ที่เข้ามาเพิ่มความเข้มข้นให้ลีกอิตาลี บอกได้เลยว่าอนาคตของทั้งสองทีมยังเปิดกว้างเสมอ และนี่คือตัวอย่างของความงามในกีฬาฟุตบอล ที่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็ยังรักและเชียร์ทีมที่ตนชื่นชอบต่อไป ดังนั้น อย่าลืมติดตามผลการแข่งขันในนัดต่อ ๆ ไป เพราะความดราม่าแบบนี้ เราจะยังได้เห็นกันอย่างแน่นอนในเวทีลูกหนังอิตาลี!

อ่านข่าวบอลอื่นๆที่น่าสนใจ